วันลอยกระทง เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวไทย ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
ตามปฏิทินจันทรคติไทย ตามปฏิทินจันทรคติล้านนา "มักจะ"
ตกอยู่ในราวเดือนพฤศจิกายน ตามปฏิทินสุริยคติ
ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา
บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที
และบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์หรือพระมหาสาวก สำหรับประเทศไทยประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือ แหล่งน้ำต่าง ๆ
ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป
ในวันลอยกระทง
ผู้คนจะพากันทำ "กระทง" จากวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ตบแต่งเป็นรูปคล้ายดอกบัวบาน
ปักธูปเทียน และนิยมตัดเล็บ เส้นผม หรือใส่เหรียญกษาปณ์ลงไปในกระทง
แล้วนำไปลอยในสายน้ำ (ในพื้นที่ติดทะเล ก็นิยมลอยกระทงริมฝั่งทะเล)
เชื่อว่าเป็นการลอยเคราะห์ไป นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการลอยกระทง
เป็นการบูชาพระแม่คงคาด้วย เดิมเชื่อกันว่าประเพณีลอยกระทงเริ่มมีมาแต่สมัยสุโขทัย
ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยมีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์
เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่าพิธีจองเปรียง
ที่ลอยเทียนประทีป และนางนพมาศได้นำดอกโคทม
ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป[ต้องการแหล่งอ้างอิง]
แต่ปัจจุบันมีหลักฐานว่าไม่น่าจะเก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
โดยอ้างอิงหลักฐานจากภาพจิตรกรรมการสร้างกระทงแบบต่างๆ ในสมัยรัชกาลที่
3
ปัจจุบันวันลอยกระทงเป็นเทศกาลที่สำคัญของไทย
ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเที่ยวปีละมากๆ
ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวมักจะเป็นช่วงต้นฤดูหนาว
และมีอากาศดี
ในวันลอยกระทง ยังนิยมจัดประกวดนางงาม เรียกว่า
"นางนพมาศ"
ลอยกระทงปีนี้ก็อย่าลืมเก็บเกี่ยวความสุขและความสวยงามของประเพณีลอยกระทง หลังจากที่หลายปีที่ผ่านมาที่มีอุปสรรค และเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายระหว่างช่วงลอยกระทง เพราะปีนี้น่าจะเป็นปีที่สดใส อุปสรรคน้อยกว่าทุกปี โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาที่เกิดน้ำท่วมใหญจนต้องลอยกระทงกันกลางถนนกันเลยก็มี อย่างไรเสียก็ควรใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่าย เพื่อป้องกันมิให้ระบบการระบายน้ำของเรามีปัญหา และเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น